ขีดความสามารถในการรองรับ
และการเข้าถึงท่าอากาศยาน
ลูกค้า
พันธมิตรทางธุรกิจ
ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
ชุมชน และสังคม
ความสำคัญ
การขยายท่าอากาศยานเพื่อรองรับผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงท่าอากาศยานทั้งรูปแบบการเดินทางและอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ให้สะดวกสบายสำหรับทุกคน เป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งสร้างผลประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ การขยายท่าอากาศยานจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนท้องถิ่น และกำหนดแนวทาง/มาตรการบรรเทาและเยียวยาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้างและปฏิบัติการของท่าอากาศยาน
แนวทางการจัดการ
การพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับของท่าอากาศยาน
ทอท. กําหนดแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานที่สอดคล้องตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ทอท. กระทรวงคมนาคม สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี โดยมีฝ่ายแผนพัฒนาท่าอากาศยาน ภายใต้สายงานยุทธศาสตร์ และทุกฝ่ายภายใต้สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง เป็นผู้รับผิดชอบในการดําเนินงานพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารตามแผนแม่บทฯ ซึ่งประกอบไปด้วย 6 แผน สําหรับท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. แผนแม่บทฯ ดังกล่าวได้รับการทบทวนเป็นประจําเพื่อควบคุมให้การดําเนินงานสําเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย และสอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการบิน โดยปัจจุบัน ทอท. มีการวางเป้าหมายระยะยาวของแผนพัฒนาท่าอากาศยานของ ทอท. ไว้ถึงปี 2583
ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ ทอท.
หน่วย: ล้านคนต่อปี
ข้อมูล ณ สิ้นปีงบประมาณ 2565
หมายเหตุ: ข้อมูลที่แสดงเป็นการวางแผนในอนาคตอาจมีการทบทวนและเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 45 ล้านคนต่อปี เมื่อพิจารณาจากการเติบโตของปริมาณ เที่ยวบินและผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ทอท. จําเป็นต้องจัดทําแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยาน ให้สอดคล้องกับการเติบโตดังกล่าว เพื่อให้การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเกิดความต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนาแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ความสามารถในการรองรับ
ณ ปัจจุบัน
ผู้โดยสาร
45 ล้านคน ต่อปี
68 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
3 ล้านตัน ต่อปี
เป้าหมาย ปี 2583
ผู้โดยสาร
150 ล้านคน ต่อปี
120 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
3 ล้านตัน ต่อปี
แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง
ทอท. ดําเนินงานพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 2 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2558 โดยมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตาม จากปริมาณเที่ยวบินและปริมาณผู้โดยสารของท่าอากาศยานดอนเมืองที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทอท. จึงจําเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารภายใต้การพัฒนาในระยะที่ 3 ดังนี้
ความสามารถในการรองรับ
ณ ปัจจุบัน
ผู้โดยสาร
30 ล้านคน ต่อปี
50 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
5.2 แสนตัน ต่อปี
เป้าหมาย ปี 2583
ผู้โดยสาร
40 ล้านคน ต่อปี
50 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
3 แสนตัน ต่อปี
แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่
ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 8 ล้านคนต่อปี แต่เนื่องด้วยปริมาณการจราจรทางอากาศ ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น ทอท. ได้กําหนดแผนการพัฒนา ดังนี้
ความสามารถในการรองรับ
ณ ปัจจุบัน
ผู้โดยสาร
8 ล้านคน ต่อปี
25 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
3.5 หมื่นตัน ต่อปี
เป้าหมาย ปี 2583
ผู้โดยสาร
20 ล้านคน ต่อปี
25 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
3.5 หมื่นตัน ต่อปี
แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่
ปัจจุบันท่าอากาศยานหาดใหญ่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 2.5 ล้านคนต่อปี จากแนวโน้มผู้โดยสารที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตและข้อจํากัดด้านความเพียงพอของหลุมจอดและระบบทางวิ่งทางขับ อีกทั้งอาคารผู้โดยสารเดิมไม่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทอท. ได้กําหนดแผนการพัฒนา ดังนี้
ความสามารถในการรองรับ
ณ ปัจจุบัน
ผู้โดยสาร
2.5 ล้านคน ต่อปี
2.5 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
1.4 หมื่นตัน ต่อปี
เป้าหมาย ปี 2583
ผู้โดยสาร
10.5 ล้านคน ต่อปี
10 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
1.4 หมื่นตัน ต่อปี
แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต
ท่าอากาศยานภูเก็ตสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 12.5 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้เมื่อพิจารณาปริมาณการจราจรทางอากาศที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น ท่าอากาศยานภูเก็ตจําเป็นต้องดําเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามแผนในระยะที่ 2 ต่อไป ทั้งนี้การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตระยะที่ 2 จะเป็นการพัฒนาจนเต็มขีดความสามารถภายในพื้นที่ของท่าอากาศยานภูเก็ต ดังนี้
ความสามารถในการรองรับ
ณ ปัจจุบัน
ผู้โดยสาร
12.5 ล้านคน ต่อปี
20 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
4,500 ตัน ต่อปี
เป้าหมาย ปี 2583
ผู้โดยสาร
18 ล้านคน ต่อปี
25 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
4,500 ตัน ต่อปี
แผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
ปัจจุบันท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร 3 ล้านคนต่อปี แต่เนื่องจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เคยมีปัญหาความคับคั่งของพื้นที่ให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งยังไม่สอดคล้องตามมาตรฐานการให้บริการ ดังนั้นการพัฒนาจะเป็น การพัฒนาเพื่อจัดสรรพื้นที่ภายในอาคารให้มีความเหมาะสมสําหรับการให้บริการ และปรับปรุงสิ่งอํานวยความสะดวกก่อน แล้วจึงจะ ดําเนินการพัฒนาต่อไป โดยจะแบ่งการดําเนินการพัฒนาเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ความสามารถในการรองรับ
ณ ปัจจุบัน
ผู้โดยสาร
3 ล้านคน ต่อปี
11 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
3.4 พันตัน ต่อปี
เป้าหมาย ปี 2583
ผู้โดยสาร
8 ล้านคน ต่อปี
11 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง
สินค้าและพัสดุ
5.3 หมื่นตัน ต่อปี
การเชื่อมโยงกับระบบคมนาคม
การอํานวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกท่าอากาศยานและการเชื่อมต่อกับระบบคมนาคมภาคพื้นดินแบบบูรณาการ เป็นปัจจัยสําคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดระยะเวลาการเดินทางให้สั้นลง และส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ การบริหารจัดการเส้นทางจราจรที่ดียังช่วยลดปัญหารถติดในชุมชนโดยรอบท่าอากาศยานอีกด้วย
ทอท. ตระหนักถึงความสําคัญในการเชื่อมต่อระบบการคมนาคมภาคพื้นดินจึงพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมอย่างต่อเนื่องตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานโดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐรัฐวิสาหกิจและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะเข้าสู่ใจกลางเมืองโดยรถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารรับจ้าง และการเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งช่วยสนับสนุนการเดินทางเข้าสู่เมืองอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเปิดให้บริการแล้วในปี 2565
หน้าจออัจฉริยะเพื่อบอกตำแหน่งรถโดยสารประจำทาง
แบบ Real-Time ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จุดเรียกแท็กซี่อัตโนมัติ (Kiosk)
ที่รองรับการใช้งานของผู้พิการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ระบบคมนาคมที่สนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย ระบบขนส่งทางบก ได้แก่ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) ทางพิเศษบูรพาวิถี และถนนเทพรัตนหรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางนา - ตราด) ที่เชื่อมเส้นทางระหว่างกรุงเทพมหานครกับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศ และระบบขนส่งทางราง คือเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์
ท่าอากาศยานดอนเมือง
ระบบคมนาคมที่สนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศของท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบด้วย ระบบขนส่งทางบก ได้แก่ ทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ทางหลวงหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) และ ระบบขนส่งทางราง ได้แก่ เส้นทางรถไฟสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สายชานเมือง ซึ่งเชื่อมต่อพื้นที่กรุงเทพชั้นใน โครงการระบบรถไฟชานเมือง สายสีแดง ซึ่งเปิดให้บริการแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2564
ทั้งนี้ ทอท. และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ก่อสร้างทางเดินเชื่อมจากสถานีดอนเมืองของโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงมายังอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง
ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา จังหวัดระยอง ซึ่งรวมไปถึงการเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานครกับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศและโครงการรถไฟความเร็วสูงที่คาดว่าจะดําเนินโครงการในอนาคต เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพในการเปลี่ยนโหมดการเดินทางจากระบบขนส่งทางอากาศไปสู่ระบบขนส่งทางราง
ท่าอากาศยานเชียงใหม่
โครงข่ายคมนาคมที่สนับสนุนท่าอากาศยานเชียงใหม่ ประกอบด้วย ระบบขนส่งทางบก คือทางหลวงหมายเลข 11 ซึ่งเชื่อมโยงโครงข่ายการ คมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัดเชียงใหม่สู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงและระบบขนส่งทางรางมีเส้นทางรถไฟสายเหนือและใน อนาคตอยู่ระหว่างการดําเนินโครงการขยายเส้นทางรถไฟทางคู่เด่นชัย - เชียงใหม่ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างจังหวัดภาคเหนือตอนบน และหากรถไฟความเร็วสูง ไทย - ญี่ปุ่น (ช่วงกรุงเทพฯ - พิษณุโลก) แล้วเสร็จ จะสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟรางคู่เพื่อเข้าถึงจุดหมายปลายทางสําคัญอื่น ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่อยู่ระหว่างดําเนินการศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาระบบขนส่งมวลชนสายสีแดง (ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ - แยกแม่เหียะสมานสามัคคี) ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จปี พ.ศ.2570
ท่าอากาศยานหาดใหญ่
โครงข่ายคมนาคมที่สนับสนุนท่าอากาศยานหาดใหญ่ ประกอบด้วย ระบบขนส่งทางบก คือทางหลวงเลข 4135 ซึ่งเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัดสงขลาสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง และระบบขนส่งทางรางมีเส้นทางรถไฟสายใต้ ในอนาคตอยู่ระหว่าการดําเนินโครงการขยายเส้นทางรถไฟทางคู่หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างจังหวัดภาคใต้ตอนบนและหากรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ - หัวหินแล้วเสร็จ จะสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟรางคู่เพื่อเข้าถึงจุดหมายปลายทางสําคัญอื่น ๆ ได้มากขึ้น
ท่าอากาศยานภูเก็ต
โครงข่ายคมนาคมที่สนับสนุนท่าอากาศยานภูเก็ต ประกอบด้วย ระบบขนส่งทางบก คือทางหลวงหมายเลข 402 เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัดภูเก็ตสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ในอนาคตจะมีระบบขนส่งทางราง โดยมีโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างท่าอากาศยานภูเก็ตกับพื้นที่เขตเมือง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวสําคัญของจังหวัดภูเก็ต
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
โครงข่ายคมนาคมที่สนับสนุนท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ประกอบด้วย ระบบขนส่งทางบก คือทางหลวงหมายเลข 1209 เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัดเชียงรายสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง และระบบขนส่งทางรางอยู่ระหว่างดําเนินโครงการขยายเส้นทางรถไฟทางคู่เด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างจังหวัดภาคเหนือตอนบน และหากรถไฟความเร็วสูงไทย - ญี่ปุ่น (ช่วงกรุงเทพฯ - พิษณุโลก) แล้วเสร็จ จะสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟรางคู่ เพื่อเข้าถึงจุดหมายปลายทางสําคัญอื่น ๆ ได้มากขึ้น
การเชื่อมโยงกับระบบคมนาคม
โครงการอาคารจอดรถยนต์ P-4
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีกำหนดการก่อสร้างอาคารจอดรถ 10 ชั้น (รองรับรถยนต์ได้ 1,200 คัน) ภายในเขตปลอดอากร เพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจรที่คับคั่ง และที่จอดรถไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ปฏิบัติงานจากหลายภาคส่วน เช่น สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิกรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการส่งออก เป็นต้น โดยโครงการอาคารจอดรถยนต์ P-4 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2567
โครงการ Freezone Smart Access
ทอท. ดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Face recognition) ระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียน (License plate recognition) ติดตั้ง ณ จุดตรวจค้นช่องทางผ่านบุคคล (Access control : AC) และสถานีตรวจสอบสินค้า (Checking Post : CP) รวมถึงตู้จำหน่ายบัตรอนุญาตบุคคลและยานพาหนะอัตโนมัติ (ID Card Self-Services Kiosk) เฉพาะประเภทบัตรอนุญาตบุคคลและยานพาหนะสำหรับเข้า-ออกพื้นที่กำกับดูแล เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชนิดชั่วคราวไม่เกิน 24 ชั่วโมง ในพื้นที่เขตปลอดอากรของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบการเข้า-ออกพื้นที่กำกับดูแลเขตปลอดอากร ทสภ. และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานระหว่าง ทอท. และหน่วยงานภายนอก
ตู้กดบัตรอัตโนมัติ
การอำนวยความสะดวกในการใช้บริการของบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมบุคลากรในท่าอากาศยานในการให้บริการผู้โดยสารทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ทอท. ได้พัฒนาคู่มือมาตรฐานการบริการสำหรับบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นแนวทางมาตรฐานสำหรับการให้บริการในทุกท่าอากาศยาน และได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการให้บริการบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานในรูปแบบออนไลน์ โดยมีวิทยากรจากมหาวิทยาลัยมหิดล (วิทยาลัยราชสุดา) และ คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ร่วมให้ความรู้ในหัวข้อเรื่อง
- กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับความพิการ และการดูแลคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม สติปัญญา การเรียนรู้ และออทิสติก
- การให้ความช่วยเหลือคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
- การให้ความช่วยเหลือคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายภายในสนามบิน
- การให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุภายในสนามบิน
- การให้ความช่วยเหลือคนพิการทางการมองเห็นในสนามบิน
โดยการฝึกอบรมดังกล่าวเป็นโครงการที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีทั้งในรูปแบบออนไลน์และ/หรือออนไซต์ (On-site)
ทบทวนล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2566